วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2557

D.I.Y การสัญจรและพิกัดทางเรือ ของกัปตันแจ็ค สแปร์โรว์ ภาค 4

D.I.Y การสัญจรและพิกัดทางเรือ ของกัปตันแจ็ค  สแปร์โรว์ ภาค 4 MARINE TRACKING SYSTEM

  
 ระบบนี้จะใช้สำหรับออกทริป หรือใช้ทำ Online Tracking  ติดตามเรือในทะเล

  • จะทำให้เห็นพิกัดของเรือเราเองที่ีวิ่งอยู่ในทะเล และจะเห็นพิกัดเรือของเพื่อนที่วิ่งอยู่หลายๆ ลำพร้อมกันทุกคน
  • ใช้กับ Tablet หรือ Smartphone
  • ช่วยให้การหาที่ตำบลเรือในทะเลหลายลำเป็นเรื่องที่ง่าย
  • ในกรณีออกทริปหลาย 10 ลำ ทำให้ดูแลช่วยเหลือกันง่ายขึ้น




สิ่งที่ต้องการ

  • Tablet  iPad ,Android หรือ Smartphone iPhone,Sumsung ,Andriod
  • สัญญาณอินเตอร์เน็ต Online

ความง่ายของระบบนี้คือ

  • การใช้งานผ่านระบบ Web Browser
  • ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมใดๆ
  • ใช้งานข้าม Platform ได้ จะระบบ Apple ,Andriod , Mobile หรือ Tablet
  • ไม่ต้องมีขั้นตอนลงทะเบียนยุ่งยาก
  • ไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน (ปรกติระบบ Tracking ต้องเสียเงินครับ)


เราสามารถใช้อุปกรณ์สื่อสารเหล่านี้ไปได้ไกลแค่ไหนในทะเล

   อุปกรณ์โทรศัพท์จะใช้คลื่นความถี่ 850 / 900 / 1800 / 1900 MHz ในการทำงาน ทั้งเสียงและข้อมูลอินเตอร์เน็ต คลื่นความถี่สูงเหล่านี้จะเดินทางเป็นเส้นตรง เราจะสามารถติดต่อกับเครือข่ายได้ในลักษณะ LOS (Line of sight)

Line of sight คือเส้นทางการติดต่อสือสารที่เป็นเส้นตรง
Line of sight คือเส้นทางการติดต่อสือสารที่เป็นเส้นตรง การติดต่อที่ถ้าไม่มีอะไรมาบดบังเส้นทางการติดต่อ จะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ ตราบใดที่ยังมีความแรงสัญญาณเพียงพอ ก็จะสามารถติดต่อสื่อสารกันได้


การติดต่อสือสารในทะเล จึงมีข้อได้เปรียบกว่าการติดต่อสือสารกันบนพื้นดิน เพราะจะไม่มีอุปสรรค์กีดขวาง เช่น ตึก ต้นไม้ ที่ราบสูง ภูเขา ฯลฯ แต่เนื่องจากโลกใบนี้มันกลม จึงทำให้เราสามารถติดต่อกันได้ไกลจนถึงจุดหนึ่ง จนกว่าจะมีส่วนโค้งของโลกบดบัง



   สายตาคนสามารถมองเห็นเป็นอนันต์ คือ เห็นได้ไกลไม่จำกัด ตัวอย่างเช่น เราเห็นพระอาทิตย์ เห็นพระจันทร์ เห็นดวงดาวต่างๆ ที่อยู่ไกลนับล้านปีแสงได้
   แต่เมื่อเรายืนอยู่ริมชายหาด แล้วมองออกไปในทะเล เราจะเห็นไกลสุดแค่เส้นขอบฟ้า เส้นขอบฟ้า คือ เส้นที่ตัดกันแตะกัน ระหว่าง ท้องฟ้า กับน้ำทะเล นั้นคือจุดที่่สามารถมองเห็นได้ไกลที่สุด จริงๆ เราเห็นได้ไกลกว่านี้แต่ที่เห็นทะเลได้ไกลสุดแค่เส้นขอบฟ้า เพราะส่วนโค้งของโลกบังทำให้มองไม่เห็นไปไกลกว่านั้น

เส้นขอบฟ้า คือ เส้นที่แผ่นฟ้า กับแผ่นน้ำ มาแตะกัน

เส้นขอบฟ้า จะมีผลต่อ Line of sight เพราะจะทำให้เรารู้ว่า คลื่นโทรศัพท์ไปได้ไกลแค่ไหนในทะเล

สูตรคำนวนเส้นขอบฟ้า
d คือ ระยะทาง หน่วยเป็นกิโลเมตร
h คือ ความสูงเป็นเมตร

สมมุติ ชายคนหนึ่งสูง 1.7 เมตร จะมองออกไปที่ทะเลจะเห็นเส้นขอบฟ้าจะมีระยะทางเท่าใด
  • เท่ากับ 13 x 1.7 แล้วสแควรูท (กดเครื่องคิดเลขตามก็ได้) ก็จะได้เท่ากับ 4.701 กิโลเมตร 
  • เสาอากาศส่งสัญญาณโทรศัพท์สูง 30 เมตร LOS เท่ากับ 19.748 กิโลเมตร
  • เสาอากาศส่งสัญญาณโทรศัพท์อยู่บนยอดตึก 60 ชั้น(ชั้นละ 3 เมตร) หรือบนเนินเขา LOS เท่ากับ 48.373 กิโลเมตร




ถ้าดูตามกฏ Line of sight ถ้าเสาส่งสัญญาณอยู่สูง สัญญาญโทรศัพท์จะมีโอกาศเดินทางไปได้ไกลในทะเลอาจได้ถึง 50 กิโลเมตร แต่จากการใช้งานจริง เรือห่างฝั่ง 15-20 Km.จากเสาส่งสัญญาณก็ยังพอใช้งานได้ โดยไม่ได้ใช้เสาอากาศภายนอก การที่ไม่สามารถใช้ได้ไกลกว่านี้มาก น่าจะเป็นข้อจำกัดจากกำลังส่งในเครื่องโทรศัพท์เอง หรือเสาอากาศในเครื่องโทรศัพท์ไม่มีประสิทธิภาพดีพอที่จะใช้ในงาน Outdoor ระยะไกล (กำลังส่งจากเสาส่งสัญญาณแรงกว่ากำลังส่งจากเครื่องโทรศัพท์ ทำให้โทรศัพท์เองต่างหากที่ส่งสัญญาณไม่ถึงเสาส่งสัญญาณ) ยกเว้นบนเรือจะมีระบบ Repeater เพิ่มกำลังส่งกับเสาอากาศภายนอกแบบ Outdoor น่าจะใช้ได้ไกลอีกเป็นเท่าตัว (อยู่ระหว่างทดสอบ D.I.Y น่าจะได้สัก 40-50 Km.เพราะใช้เสาอากาศพวก yaki)

   เกาะในประเทศไทยทั้งหมด เกาะที่อยู่ไกลห่างฝั่งมากที่สุด อยู่ที่ประมาณ 65 กิโลเมตร เกาะไกลๆ เหล่านี้มีเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ด้วย เช่น หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ หมู่เกาะอ่างทอง เกาะเต่า/เกาะนางยวน เกาะอาดัง-ราวี (เกาะกูดไม่ถือว่าเป็นเกาะที่ไกลจากฝั่งเพราะห่างจากอำเภอคลองใหญ่ จ.ตราด ประมาณ 30 กิโลเมตร) นั่นหมายถึงว่าหากเรือเรามีระบบรับส่งสัญญาณที่มีประสิทธภาพสูง เราสามารถวิ่งออกจากฝั่งไปไกลได้อีกเป็นร้อยกิโลเมตรจากฝั่ง โดยใช้สัญญาณจากเกาะที่มีเสาสัญญาณโทรศัพท์ ที่มีทั้งสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณอินเตอร์เน็ต

   ถ้าดูจาก Coverrage ของผู้ให้บริการโทรศัพท์ เคลมไว้ประมาณ 5-15 Km จากฝั่ง ส่วนในเกาะสำคัญจะใช้ได้เกือบทุกเกาะ เช่น เกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ เกาะเต่า เกาะสมุย เกาะพีพี เกาะยาว เกาะพงัน เกาะล้าน เกาะสีชัง เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด เกาะตะรุเตา เกาะอาดัง ฯลฯ


พื้นที่ให้บริการ DTAC





พื้นที่ให้บริการ AIS




พื้นที่ให้บริการ Truemove



ก็คงพอรู้ข้อจำกัดกันแล้วนะครับ ปรกติระบบ Tracking จะต้องเสียค่าบริการรายเดือน รายปี แต่นี่เป็น Free Marine Online Tracking System มันคงต้องมีข้อจำกัดกันบ้าง


ก่อนเข้าใช้งานอ่านวิธีใช้ให้จบก่อนนะครับ

ระบบนี้จะสามารถทำงานได้จากหน้าเวปเลย เข้าใช้งาน ระบบการสัญจรและพิกัดของเรือ

การใช้งานให้กระทำผ่าน Tablet หรือ Smartphone สำหรับ iPad ให้ทำการติดตั้ง Google Chrome ก่อนนะครับเพราะเรายังคงใช้ engine แผนที่เจ้าโลกของ Google Map




เลือกเข้าใช้งาน ระบบ จริงๆ จากหน้านี้ก็ใช้ได้แล้วครับ ที่ต้องเลือกกดที่ปุ่ม ระบบสัญจรทางเรือ เพราะจะได้ตัดเมนูอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป



เลื่อนลงด้านล่าง แล้วกดปุ่ม ระบบการสัญจรและพิกัดของเรือ AIS


ก็จะเข้าหน้าพร้อมใช้แล้วครับ เครื่องจะถามว่า ต้องการใช้พิกัดของเครื่อง ตอบ ตกลง

ให้กรอก username กับ password

การตั้ง username ให้ตั้งให้ตรงกับชื่อที่เราใช้ประจำ เพื่อเพื่อนๆ จะได้จำได้นะครับ พอกรอกแล้วระบบจะจำชื่อนี้ตลอด ชื่อนี้ก็จะสมัครซ้ำใหม่ไม่ได้ครับ และก็จะผูกติดกับเครื่องที่สมัครด้วยครับ เครื่องจะจำ Username นี้ไว้ ถ้าเราจะใช้ประจำกับเครื่องไหนก็ใช้เครื่องนั้นสมัครครับ

ส่วน password ควรจะเป็นรหัสผ่านที่เราใช้ประจำ หรือรหัสที่จำง่ายๆ และเราไม่ลืม เพราะมันไม่มีระบบ recover password ครับ

username กับ password ต้องจำให้ได้นะครับ จำไม่ได้ต้องตั้ง username ใหม่ ชื่อเดิมจะไม่สามารถใช้ซ้ำได้ครับ

พอกรอกครบถ้วน กดปุ่ม Sign up จบการสมัครก็ใช้ได้เลย
ครั้งต่อไปเวลาใช้ ก็ใส่ username กับ password แล้วกดปุ่ม Sign in ก็พร้อมใช้แล้วครับ



รอสักพักก็จะมีแผนที่ขึ้นพร้อมพิกัดตัวเอง

ทดสอบจาก iPad

ระบบ มือถือ Andriod
ทดสอบจาก Samsung mobile
ตอนนี้แต่ละคนก็จะเห็นพิกัดตัวเองบนแผนที่
ให้ลองเชิญเพื่อนเข้ามาใช้แผนที่เดียวกัน



เพื่อนที่ถูกเชิญต้องกดยอมรับ ด้วยครับปุ่มจะอยู่ด้านล่างสุด พอกดปุ่มยอมรับ Accept แล้ว ก็จะปรากฏพิกัดของทั้งคู่ครับ


ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็จะเห็นกันตลอด จะมีเรือกี่ลำในทริปก็จะเห็นว่าเรือแต่และลำอยู่ตรงไหน


จะเห็นว่าการหาที่ ในทะเลไม่ยาก และก็หาเพื่อนหลายๆ สิบลำในทะเลก็ไม่ยาก คงพอจะใช้งานกันได้แล้วนะครับ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น