วันศุกร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2558

ระบบทำนายลมและคลื่นทะเล ด้วย Super Computer

ระบบทำนายลมและคลื่นทะเล ด้วย Super Computer

   สามารถระบุและชึ้พิกัด ทดสอบจาก iPad ,Andriod เพื่อวัดค่าปัจจุบันและทำนายค่าล่วงหน้า เนื่องจากเรือ Speed boat ที่พวกเราใช้กันส่วนใหญ่จะเป็นเรือที่มีขนาด ไม่ใหญ่มาก (16-21ฟุต) แต่เรือแบบนี้จะมี พิสัยความสามารถในการเดินทางในทะเลได้ประมาณ 300 กิโลเมตร (คิดจากปริมาณน้ำมันที่สามารถบรรทุกไปได้บนเรือประมาณ 150 ลิตร 1 ลิตรวิ่งได้ 2 กิโลเมตร) ฉะนั้นน้ำมันในเรือสามารถวิ่งออกจากฝั่งสัตหีบ ข้ามอ่าวไทย จนเลยไปถึงเกาะเต่าใด้ หรือหากเดินทางโดยใช้ความเร็ว Cruise speed โดยมี Auto pilot ช่วยขับ คงเดินทางได้ถึงเกาะสมุย เกาะพงัน โดยยังมีน้ำมันเหลือในถัง

   เรือขนาดนี้สามารถวิ่งสบายในคลื่นขนาด 1 เมตร และทนกำลังคลื่นมากสุดได้ไม่เกิน 3-4 เมตร และต้องไม่เป็นคลื่นที่เป็นลูกคลื่นระรอกสั้น ถ้าเป็นคลื่นระรอกสั้นจะทนได้ไม่เกิน 2 เมตร


มาลองดูวิธีประมวณผลจากระบบซุปเปอร์คอมพิวเตอร์กัน ว่ามันจะคำนวณได้ละเอียดขนาดไหน วิธีใช้ก็ใช้วิธีคลิกตรงจุดแผนที่ๆต้องการ ระบบก็จะแจ้งมาว่า ทิศทางลม ลมพัดเร็วเท่าได ทิศทางคลื่น คลื่นสูงเท่าได ระยะห่างของลูกคลื่นตามเวลา ทิศทางกระแสน้ำ ความเร็วกระแสน้ำ ตรงจุดพิกัดที่กระแสน้ำหมุนวน น่าสงสัยมากว่าจะมีปลารอบๆวงตรงนั้น






เฉพาะแผนที่สำคัญที่ใช้ในการเดินเรือ
  • แผนที่ความเร็วและทิศทางลม (Wind Speed)
  • แผนที่ความสูงคลื่นแบบมีนัยสำคัญ (Wave Sea)
  • แผนที่กระแสน้ำทะเล (Ocean current)


แผนที่ความเร็วและทิศทางลม บริเวณพื้นผิวน้ำ


แผนที่ความสูงคลื่น แบบมีนัยสำคัญ


แผนที่กระแสน้ำ



วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

The solunar theory ทฤษฏีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทฤษฏีเหนือเมฆจาก ... นักตกปลา

The solunar theory ทฤษฏีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทฤษฏีเหนือเมฆจาก ... นักตกปลา



   ทฤษฎีโซลูน่าร์ ถูกเสนอครั้งแรกโดยชาวอเมริกัน John Alden Knight ในปี 1926 ผู้เขียน "Moon up...Moon down" (พระจันทร์ขึ้น ... พระจันทร์ลง) "The Modern Angler" (การตกปลาสมัยใหม่) ในปี 1936 "Modern Fly Casting" ในปี 1942  เขาเป็นตำนานพื้นบ้านที่หยิบจับวิธีนี้ขึ้นมา ขณะที่เขาทำประมงที่รัฐฟลอริด้า และสรุปผลการประเมินผลการศึกษา 33 ปัจจัย ที่มีผลต่อปลาน้ำจืด และปลาทะเล ที่จะก่อให้เกิดผลที่พวกเขาจะได้รับ กับช่วงระยะเวลาการจับปลาที่มันใช้ได้ผล

ดูเหมือนมีสามปัจจัยที่มีผลต่อการทดสอบ
  • พระอาทิตย์ขึ้น/พระอาทิตย์ตก
  • มุมโคจรของดวงจันทร์
  • น้ำขึ้น น้ำลง
จากความพยายาม ... มันเป็นความคิดที่เหนือเมฆมาก ของนักตกปลาที่สร้าง ทฤษฏีโซลูน่าร์ (Solunar theory)


จะสังเกตุว่า John Alden Knight เป็นคนช่างสังเกตุ และมีแนวความคิดทันสมัยมาก มันเป็นพลัง ของการส่งถ่ายความรู้ ต่อคนรุ่นต่อไป

ตัวอย่างวิธีการ  Modern Fly Casting


เข้าใจรากศัพท์
  • Sol = Sun (พระอาทิตย์)
  • Lunar = Moon (พระจันทร์)
กระแสน้ำได้รู้จักกันมานานแล้วว่า เป็นปัจจัยสำคัญในการตกปลาน้ำเค็ม แต่จุดเชื่อมต่อกับการเคลือนที่ของดวงจันทร์ ยังไม่เข้าใจกัน John Alden Knight กล่าวไว้คือ ความสัมพันธ์ระหว่าง พระอาทิตย์ และพระจันทร์ ค่อนข้างเป็นไปได้ว่า ขั้นตอนของน้ำขึ้น น้ำลง อาจจะเป็นปัจจัยที่เป็นตัวกำหนด เป็นผลงานวิจัยของเขาที่ต่อเนื่อง เขาระบุว่านอกเหนือจากเวลาของดวงจันทร์ขึ้น ดวงจันทร์ลง มีช่วงเวลาที่อยู่ตรงกลางของกิจกรรมการจับปลาช่วงกลางทาง ระหว่างสองช่วงเวลาที่สำคัญ ดังนั้นเขาจึงเป็นคนบัญญัติวลี Major periods กับ Minor periods



ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด (Major periods) กับ ช่วงเวลาที่สำคัญรองลงมา (Minor periods) เพื่ออธิบายตามลำดับ

John Alden Knight ใช้ข้อมูลข้อมูลเพื่อเผยแพร่ ตารางโซลูนาร์ (Sulunar table) ในปี 1936 ตารางนี้ยังคงมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และด้วยวิธีการต่างๆ นาๆ บ้าง   ก็เกี่ยวกับนาฬิกาแบบดิจิตอล เลียนแบบพวกเขา เพื่อที่จะมีความถูกต้องและแม่นยำ จากแต่ละตารางที่จะต้องพิจารณาตามที่ตั้งภูมิศาสตร์ และต้องมีการปรับเวลาตามฤดูกาลตามความเหมาะสม

ช่วงระยะเวลาที่สัตว์มีกิจกรรมมากที่สุด (ไม่เพียงแต่ปลา ที่ได้รับอิทธิพล) หลังจาก 1.5-3 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดวงจันทร์กับดวงอาทิตย์

  • ข่วงเวลาที่สำคัญที่รองลงมา (Minor periods) จะแสดงระหว่างการขึ้น และการตกของดวงจันทร์
  • ช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด (Major periods) จะแสดงระหว่างการโคจรของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ คุณสามารถประมาณการคำนวนเวลาเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง โดยบวกเพิ่ม 6 ชั่วโมงของการขึ้น และการตกของพระจันทร์

Moon phase หรือ ดิถีของดวงจันทร์

การคำนวณทางจันทรคติ สำหรับการแสดงผลบน ดิถีของพระจันทร์ (Moon Phase) และดวงจันทร์ขึ้น คำนวนจากวันที่ และตำแหน่ง (คำนวนจากข้อมูลพื้นฐาน หอดูดาว นาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา) ที่จะพิสูจน์ทฤษฏีนี้ John Alden Knight พยายามทำเงื่อนไขต่างๆอย่างเป็นระบบ โดยการพิจารณา ข้อมูลจังหวะเวลา 200 การบันทึก มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่ระหว่าง New moon เดือนดับ (แรม 15 ค่ำ) นี่เป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์ดวงจันทร์ อยู่ข้างเดียวกันและแนวเดียวกัน จะปรากฏพลังมากที่สุด โดยพวกเขาได้ทำในช่วงเวลาที่เป็นเวลาจริงของช่วงเวลาปรากฏการณ์เดือนดับ

เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพลังดวงจันทร์และพลังงานดวงอาทิตย์ ไม่มีเพียงวัน,เดือนหรือปีที่จะเหมือนกัน ใน เดือนมิถุนายน จะมีอิทธิพลของการรวมพลังของดวงอาทิตย์ดวงจันทร์มากที่สุด (ช่วงเดือนมิถุนายนเป็นช่วงที่วงโคจรของดวงจันทร์ใกล้โลกมากที่สุด) ในช่วงที่พระจันทร์เต็มดวง "เดือนเพ็ญ" พระอาทิตย์พระจันทร์จะอยู่ตรงข้ามกัน และจะไห้ช่วงเวลาเกือบทั้งวัน หรือเกือบตลอดเวลาที่อยู่เหนือขอบฟ้า




ช่วงเวลา เดือนดับ (New moon) จะเกิดการรวมพลังทั้งสองของ ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ด้วยกันอีกครั้ง กับการรวมพลังของพวกเขา

ข้อควรจำ
  • หลังจากช่วง พลังดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (Solunar Preriod) มากที่สุด คือ ช่วงเดือนดับ ( แรม 15 ค่ำ) อยู่ภายใน 30-60 นาทีของพระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก คุณสามารถคาดหวัง กับผลของงานที่ยิ่งใหญ่ 
  • ยิ่งดีกว่านั้น ถ้าเกิด พลังดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (Solunar Preriod) ในช่วงใกล้ค่ำ หรือรุ่งอรุณ และถ้ามันสอดคล้องกับ เดือนดับ (New moon) หรือ เดือนเพ็ญ (Full moon) คุณสามารถคาดหวังกับผลงานที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง!
ปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลกระทบอย่างมาก ในการคาดหวังของ ตารางดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (Solunar table) ตัวอย่างเช่น
  • คุณควรพิจารณาสภาพอากาศในท้องถิ่น การเปลี่ยนแปลงความกดดันบรรยากาศ การแปลงแปลงความกดอากาศมีแนวโน้มลดลง มักจะทำลายการจับปลาย่อยยับ ปลาและสัตว์ป่ามีความสามารถโดยธรรมชาติที่จะคาดการณ์สภาพอากาศ และมีปฏิกริยาตอบสนองกับความเย็น และผลักดันให้ดำน้ำลึกลงไปอีก และทำให้พวกมันตื่นตัวเสมอ
  • ในทางตรงกันข้าม ถ้าบอรอมิเตอร์ คงที่ หรือเพิ่มขึ้น และอุณหภูมิของอากาศไม่ต่ำกว่า 15 องศาฟาเรนไฮต์ (-9.44 องศาเซลเซียส) อุณหภูมิของน้ำจะเพิ่มการตอบสนองต่อ การทำนายปรากฏการณ์โซลูนาร์ สามารถคาดหวังได้ อุณหภูมิยังเกี่ยวข้องกับเวลาวางไข่ และยังเป็นกุญแจสำคัญในรูปแบบตามฤดูกาลที่ปลาต้องการเป็น
สิ่งอื่นๆที่จะต้องจัดการกับระยะเวลากับการที่จะรับมือกับ ช่วงเวลาดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (Solunar Preriod) คือ อิทธิพลของ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ (Solunar) จะแปรผันตามตำแหน่งของดวงจันทร์ เวลาของ เดือนดับ (New moon) และ เดือนเพ็ญ (Full moon) เป็นเวลาที่มีพลังมากที่สุด 

กระแสน้ำขึ้น น้ำลงในมหาสมุทรสะท้อนให้เห็นความรุนแรงในความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ อย่างมากสุดอยู่ได้ประมาณ 3 วัน และสิ่งมีชีวิตทั้งหลายจะตอบสนองกับกิจกรรมสูงสุด หลังจากนั้นจะชลอความรุนแรงออกไปจนกว่าถึงจุดต่ำสุด ระหว่างช่วงไตรมาสที่ 3 ของดวงจันทร์  (ช่วงน้ำน้อย หรือน้ำตาย Neap tide)

นักตกปลาทะเลบางคนให้เหตุผลว่า กระแสน้ำมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการกินอาหารของปลามากกว่าดวงจันทร์ แต่เราควรเข้าใจว่า กระแสน้ำขึ้น น้ำลง ถูกควบคุมด้วยดิถีของดวงจันทร์ และการโคจรของดวงจันทร์ 

ปรากฏการทางทะเลบางอย่าง เกิดขึ้นเป็นระบบที่แม่นยำเป็นระบบช่วงเดือนจันทรคติ และวัฏจักรดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์

มีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าวันธรรมชาติสำหรับปลาและสัตว์ชนิดอื่น ๆ อีกมากมายขึ้นอยู่กับรอบวัน (2 ครั้งต่อวัน) "นาฬิกาชีวะภาพ" ที่ปรากฏขึ้นจะตรงกับเวลาที่ดวงจันทร์  ในคำอื่นๆ มันอยู่บนพื้นฐานของเวลา ที่ดวงจันทร์ใช้เวลาหมุนรอบโลกให้เสร็จสมบูรณ์ (เฉลี่ย 24 ชั่วโมง 53 นาที) เช่นนี้เรียกว่า วันน้ำขึ้น น้ำลง และอธิบายว่าทำไม กระแสน้ำขึ้น น้ำลงในมหาสมุทร ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมาในแต่ละวัน ทำไมปลาจึงมารวมกันมาก เพื่อหาอาหาร หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในแต่ละวัน


Remember ... the BEST time to go fishin' ... is whenever you can safely!
โปรดจำไว้ว่า ... เวลาที่ดีที่สุดที่ไปตกปลา ... คือ เมือไรก็ตาม ที่คุณทำมันอย่างปลอดภัย


ที่มา แปลและเรียบเรียงมาจาก Florida Fish and Wildlife Conservation Commission 


ดิถีดวงจันทร์ Moon phase

ดิถีดวงจันทร์ Moon phase

   ดิถีดวงจันทร์ หรือ Moon phase หรือ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม ของดวงจันทร์ (lunar phase) ในทางดาราศาสตร์ เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อย่างหนึ่งที่เกิดกับดวงจันทร์ นั่นคือ ดวงจันทร์จะมีส่วนสว่างที่สังเกตได้ที่ไม่เท่ากันในแต่ละคืน เกิดจากการโคจรของดวงจันทร์รอบโลก โดยหันส่วนสว่างเข้าหาโลกต่างกัน ดิถีที่ต่างกันนี้เองมักใช้กำหนดวันสำคัญทางพุทธศาสนา และใช้เป็นหลักในการนับเวลา ในปฏิทินจันทรคติ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ การนับเดือน และการนับปี และการนับเวลาในปัจจุบัน

ต้นกำเนิดการนับเดือน นับปี <-คลิก


CURRENT MOON



วิธีคำนวนข้างขึ้นข้างแรม

  • ข้างขึ้น คือ ดวงจันทร์จะเต็มดวงไปเรื่อยๆ หรือถ้าดูจากรูป คือซึกครึ่งวงกลมด้านบน
  • ข้างแรม คือ ดวงจันทร์จะเห็นน้อยลงๆไปเรื่อยๆ หรือถ้าดูจากรูป คือ ซึกครึ่งวงกลมด้านล่าง
พอรู้ว่าเป็นข้างขึ้น ข้างแรมแล้ว เช็คข้างขึ้นข้างแรม <-คลิก

ประโยชน์

  • ใช้คาดการณ์ระดับน้ำด้วยตัวได้ อย่างง่ายไม่มีตารางน้ำก็คาดการณ์ระดับน้ำได้ได้ ดูที่นี่
  • ใช้ดูกิจกรรมตอบสนองของสิ่งมีชีวิต สัตว์ป่า รวมทั้งปลาน้ำจืด ปลาน้ำทะเล ดูที่นี่
  • ดวงจันทร์สามารถใช้บอกทิศได้ (กรณีเข็มทิศเสีย GPS พัง ก็ยังเดินเรือได้) ดูที่นี่



อายุของดวงจันทร์
ดวงจันทร์ เป็นปัจจัยสำคัญหลัก ที่ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลง การที่เราทราบอายุดวงจันทร์ หรือทราบดิถีดวงจันทร์ ทำให้เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า ระดับน้ำขึ้นน้ำลงจะเป็นเช่นไร






บทความที่เกี่ยวข้อง : The solunar theory ทฤษฏีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทฤษฏีเหนือเมฆจากนักตกปลา
                              เรื่องของน้ำขึ้น-น้ำลง TIDE
                              การนับเดือน นับปี และความสัมพันธ์ของเวลา
  




วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องของน้ำขึ้น-น้ำลง TIDE

เรื่องของน้ำขึ้น-น้ำลง TIDE


   น้ำขึ้นน้ำลง (Tide) เกิด จากแรงดึงดูดระหว่าง ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ ที่โคจรและกระทำต่อโลก เป็นแรงดึงดูดต่อระยะทาง เนื่องจากพระอาทิตย์อยู่ไกลกว่าดวงจันทร์ แรงดึงดูดหลักจะเป็นพระจันทร์ ส่วนพระอาทิตย์เป็นแรงดึงดูดเสริม ทำให้เกิดผลของน้ำขึ้น น้ำลงมากขึ้น

เนื่องจากน้ำขึ้นน้ำลงจะสัมพันธ์กับตำแหน่งดวงจันทร์ ฉะนั้นเราจะต้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับดวงจันทร์ก่อน

ดวงจันทร์ (Moon)
   คือวัตถุบนท้องฟ้าที่ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ใน 4 ของโลก (3467 กม.) มีการโคจร 3 แบบพร้อมๆ กัน หมุนรอบตัวเอง หมุนรอบโลก หมุนรอบดวงอาทิตย์


ปฏิทินจันทรคติ คือ ปฏิทินที่มีการนับวันและเดือน โดยถือเอาการเดินทางของดวงจันทร์เป็นหลัก ซึ่งสังเกตุจากตำแหน่งของดวงจันทร์ที่เห็นปรากฏบนโลก เรียกว่า ข้างขึ้น ข้างแรม
  • วันข้างขึ้น คือ วันที่เห็นดวงจันทร์มากขึ้น จนถึงวันที่เห็นดวงจันทร์เต็มดวง
  • วันข้างแรม คือ วันที่เห็นดวงจันทร์น้อยลง จนถึงวันที่เราไม่เห็นดวงจันทร์
ปฏิทินจันทรคติ เริ่มที่ ขึ้น 1 ค่ำ จนถึง ขึ้น 15 ค่ำ และต่อไปก็เป็น แรม 1 ค่ำ จนถึง แรม 14 ค่ำ เป็นวันสุดท้ายของเดือน รวมเป็นเวลา 29 วัน เรียก เดือนขาด ในบางเดือนจะนับวันไปจนถึงแรม 15 ค่ำ ถึงเป็นวันสิ้นสุดของเดือน รวมเป็นเวลา 30 วัน เรียก เดือนเต็ม โดยเฉลี่ยตลอดทั้งปี 1 เดือนจะมี 29.5 วัน ในแต่ละวันดวงจันทร์จะปรากฏให้เห็นขนาดต่างกัน เพราะดวงจันทร์โคจรรอบโลก โดยด้านที่เห็นคือด้านที่ได้รับแสงอาทิตย์และหันมาทางโลก โดยจะได้รับแสงมากขึ้นในวันข้างขึ้น และ รับแสงน้อยลงในวันข้างแรม

จากภาพ 
ตำแหน่งที่ 1 จะมองไม่เห็นดวงจันทร์เพราะเราจะเห็นดวงจันทร์ด้านที่ไม่ได้รับแสงเลย (ซีกด้านมืด) ตำแหน่งนี้จะตรงกับแรม 15 ค่ำซึ่งเป็นวันสุดท้ายของเดือนเต็ม หรือ ขึ้น 1 ค่ำของเดือนเต็มซึ่งนับต่อจากแรม 14 ค่ำของเดือนขาด

ตำแหน่งที่ 5 จะมองเห็นดวงจันทร์เต็มดวงเป็นรูปวงกลม เรียก จันทร์เพ็ญ เพราะดวงจันทร์จะหันด้านสว่างมาโลก ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ ช่วงที่เกิดจันทร์เพ็ญ ดวงจันทร์จะขึ้นทางทิศตะวันออกเวลาหัวค่ำ และจะตกลับฟ้าทางทิศตะวันตกเวลารุ่งเช้า

จะพบว่าการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ จะหันเข้าหาโลกด้านเดียวตลอดการเคลื่อนที่รอบโลก คือ เมื่อดวงจันทร์หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ ก็จะหมุนรอบโลก 1 รอบเช่นกัน โดยใช้เวลา 29.5 วัน หรือประมาณ 1 เดือนนั่นเอง

น้ำขึ้นน้ำลงเกิดจากปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพล ของ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกมีแรงดึงดูดต่อกัน ทำให้ระดับน้ำทะเลบนโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ขึ้นและลงวันละ 2 ครั้ง เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ไกล้โลกมาก แรงดึงดูดของดวงจันทร์จึงมีอิทธิพลต่อสิ่งต่างๆบนโลกมากกว่าดวงอาทิตย์ 

   น้ำในมหาสมุทรจะขึ้นลงครบ 1 รอบในครึ่งวัน หรือใน 1 วัน น้ำจะขึ้นลง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกน้ำขึ้นเมื่อดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง ระหว่างโลกกับพระอาทิตย์ และครั้งที่ 2 เมื่อโลกหมุนไป 12 ชั่วโมง 25 นาที ดวงจันทร์จะอยู่ตรงกันข้ามกับพระอาทิตย์ โดยมีโลกอยู่ตรงกลาง



  • ดวงจันทร์อยู่ตำแหน่ง แรม 11,12,13 ค่ำ ช่วงนี้เรียก น้ำเกิด น้ำจะมากขึ้นๆ จนถึงแรม 14,15 ค่ำ น้ำจะขึ้นมากที่สุด เรียก เดือนดับ น้ำจะขึ้นมาก
  • ดวงจันทร์อยู่ตำแหน่ง ขึ้น 11,12,13 ค่ำ ช่วงนี้เรียก น้ำเกิด น้ำจะมากขึ้นๆ จนถึง ขึ้น 14,15 ค่ำ เรียก เดือนเพ็ญ น้ำจะขึ้นมาก
  • เมื่อดวงจันทร์เคลื่อนจากตำแหน่ง แรม 15 ค่ำ น้ำจะค่อยๆ ลงมาเรื่อยๆ จนถึงวันขึ้น 7-8 ค่ำ น้ำจะไม่ค่อยลดลง เรียก น้ำน้อย หรือ น้ำตาย
  • เมื่อดวงจันทร์เคลื่อนจากตำแหน่ง ขึ้น15 ค่ำ น้ำจะค่อยๆ ลงมาเรื่อยๆ จนถึงวันแรม 7-8 ค่ำ น้ำจะไม่ค่อยลดลง เรียก น้ำน้อย หรือ น้ำตาย



ในวันขึ้น 15 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ ดวงจันทร์ และ ดวงอาทิตย์จะอยู่แนวเดียวกัน ส่งผลให้มีแรงดึงดูดมายังโลกมากกว่าวันอื่น น้ำจึงขึ้นมากกว่าวันอื่น เรียกว่า ว้นน้ำเกิด/วันน้ำมาก (Spring Tides)
    

ในวันข้างขึ้น 7-8 ค่ำ หรือแรม 7-8 ค่ำ น้ำจะขึ้นและลงไม่มาก เรียก วันน้ำตาย (Neap Tides)

ทำไมน้ำขึ้นช้า วันละ 50 นาที
น้ำจะขึ้นบริเวณเดิมวันละ 2 ครั้งใน ทุกๆ 12 ชั่วโมง เนื่องจากโลกหมุนรอบตัวเอง เช่น ตำบล A น้ำขึ้นมากสุดตอนเที่ยงวัน วันที่ 1 มกรา พอโลกหมุนไปทำให้ตำบล A เป็นเที่ยงคืน น้ำจะขึ้นอีกครั้งหนึ่ง



แต่พอผ่านไปอีก 12 ชั่วโมง โลกหมุนมาครบรอบ 1 วันที่ 24 ชั่วโมง ที่ตำบล A ตอนเที่ยงวัน ของวันที่ 2 น้ำจะยังไม่ขึ้น เพราะอัตราการโคจรของดวงจันทร์ช้ากว่าที่โลกหมุนรอบตัวเอง ทำให้เราเห็นดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าตะวันออกช้าลง เนื่องจากการหมุนของโลกกับดวงจันทร์ที่ไม่เท่ากันพอดี เวลาของโลกหมุนรอบตัวเอง 1 วัน แต่เวลาโคจรของดวงจันทร์ยังไม่ครบรอบของดวงจันทร์ เวลาเลยต่างกัน ดวงจันทร์ต้องโคจรเดินทางไปอีกหน่อยถึงจะครบรอบของดวงจันทร์ ที่ตำบล A น้ำจะขึ้นอีกครั้ง น้ำจะขึ้นช้าไป 25 นาที และเมื่อโลกหมุนไปอีกจนถึงเที่ยงคืน วันที่ 2 น้ำก็ยังไม่ขึ้นจนกว่าดวงจันทร์จะโคจรตรงกับตำบล A อีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาไปอีก 25 นาที รวมเป็น 50 นาที

รูปแบบการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง

แบบน้ำคู่ (semidiurnal tide)
     ถ้าเราอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร และดวงจันทร์ปรากฏอยู่ตำแหน่งใดก็ตาม จะทำให้ตำแหน่งที่เรายืนสังเกตการณ์ถูกพาผ่านจุดที่โป่งออกทั้งสองข้างวันละ 2 ครั้ง ทำให้ในแต่ละวันเราจะเห็นน้ำขึ้น 2 ครั้งและน้ำลง 2 ครั้ง เรียกว่าน้ำขึ้นน้ำลงแบบน้ำคู่หรือ semidiurnal tide  โดยน้ำขึ้นทั้งสองครั้งจะสูงสุดเท่ากันและน้ำลงทั้งสองครั้งก็จะต่ำสุด   เท่ากันด้วย  ดังจุด A-A’ในรูป บางครั้งเรียก semidiurnal tide ว่า equatorial tides

     นอกจากนี้การเกิดน้ำขึ้นแต่ละครั้งจะไม่ได้ห่างเท่ากับ 12 ชั่วโมงพอดี เพราะเราต้องพิจารณาการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ด้วย เนื่องจากขณะที่โลกหมุนรอบตัวเอง และดวงจันทร์ก็โคจรรอบโลก แต่อัตราการโคจรของดวงจันทร์ช้ากว่าที่โลกหมุนรอบตัวเอง ทำให้เราเห็นดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าตะวันออกช้าลงประมาณวันละ 50 นาทีและ tidal day จึงยาวนานกว่า solar day ประมาณ 50 นาทีด้วย ดังนั้น ผลจากการเคลื่อนที่สัมพัทธ์ระหว่างโลกและดวงจันทร์ เราจึงมองเห็นดวงจันทร์โคจรรอบโลกครบ 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงกับอีก 50 นาที และวัฏจักรการเกิดน้ำขึ้นน้ำลงก็ เช่นเดียวกัน คือ จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมง 50 นาที (the tidal day)โดยน้ำขึ้นแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 12 ชั่วโมง 25 นาที(half a tidal lunar day) ตัวอย่างเช่น วันนี้น้ำขึ้นเวลา 06:00 น. น้ำขึ้นครั้งต่อไปจะเป็นเวลา 18:25 น.เป็นต้น

 แบบน้ำผสม (mixed tide)
     การเกิดน้ำขึ้นน้ำลงแบบน้ำผสมหรือ mixed tideจะเกิดขึ้นที่บริเวณเหนือหรือใต้เส้นศูนย์สูตรไม่เกิน 28.5 องศา โดยเกิดคล้ายกับ semidiurnal tideคือเกิดน้ำขึ้น 2 ครั้งและน้ำลง 2 ครั้ง แต่น้ำขึ้นทั้งสองครั้งสูงไม่เท่ากัน ส่วนน้ำลงก็ลงต่ำสุดไม่เท่ากัน ดังจุด B-B’ในรูป บางครั้งเรียก mixed tideว่า tropic tidesส่วนน้ำขึ้นแต่ละครั้งจะห่างกันนประมาณ 12 ชั่วโมง 25 นาทีเช่นเดียวกัน

แบบน้ำเดี่ยว (diurnal tide)
     ในพื้นที่บริเวณละติจูดตั้งแต่ 28.5 องศาเหนือขึ้นไปหรือ 28.5 องศาใต้ลงมาจากเส้นศูนย์สูตรจะเกิดน้ำ ขึ้นเพียง 1 ครั้งและน้ำลง 1 ครั้ง (one tidal cycle per day) สาเหตุเนื่องจากแนวมหาสมุทรที่โป่งออก (the ocean’s  tidal bulges)ไม่จำเป็นต้องอยู่ในแนวเส้นศูนย์สูตรเสมอไป แต่ขึ้นกับตำแหน่งของดวงจันทร์ เนื่องจากระนาบการโคจรของดวงจันทร์เอียงจากระนาบเส้นศูนย์สูตรของโลกไปประมาณ 5 องศา ทำให้ตำแหน่งปรากฏของดวงจันทร์สามารถเคลื่อนที่จากเส้นศูนย์สูตรไปอยู่สูงสุดที่ละติจูด 28.5 องศาเหนือ และสามารถเคลื่อนผ่านเส้นศูนย์สูตรไปอยู่ต่ำสุดที่ละติจูด 28.5 องศาใต้ ขณะที่ดวงจันทร์อยู่ที่ตำแหน่งละติจูดสูงสุด (เอียงไปทางซีกโลกเหนือ) จะทำให้จุดที่โป่งออกมากที่สุดด้านเดียวกับดวงจันทร์เอียงไปทางซีกโลกเหนือสุดด้วย (north of the Tropic of Cancer)แต่ขณะเดียวกันจุดที่โป่งออกมากที่สุดด้านเตรงข้ามกับดวงจันทร์ก็จะเอียงไปทางซีกโลกใต้สุดด้วย (south of the Tropic of Capricorn) ดังจุด C-C’ในรูป ทำให้ผู้สังเกต การณ์ที่อยู่บริเวณดังกล่าวถูกนำผ่านจุดที่มหาสมุทร หรือน้ำทะเลโป่งออกเพียงวันละหนึ่งครั้งจากการหมุนรอบตัวเองของ โลก ดังนั้นในหนึ่งวันเราจึงมองเห็นน้ำขึ้นเพียง 1 ครั้งและน้ำลง 1 ครั้ง โดยน้ำขึ้นแต่ละครั้งจะห่างกันประมาณ 24 ชั่วโมง 50 นาที ตัวอย่างเช่น วันนี้น้ำขึ้นเวลา 06:00 น. น้ำขึ้นครั้งต่อไปจะเป็นเวลา 06:50 น.ของวันใหม่ เป็นต้น

รูปภาคตัดขวางผ่านแนวเหนือ-ใต้ของโลก แสดงบริเวณที่เกิดน้ำขึ้นน้ำลงแบบน้ำคู่(A-A’) แบบน้ำผสม(B-B’)และแบบน้ำเดี่ยว(C-C’)
กราฟแสดงน้ำขึ้นน้ำลงแบบต่างๆ

 การที่ประเทศไทยมีพื้นที่ติดกับทะเลสองฝั่ง คือ ทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออกกับทะเลอันดามันด้านตะวันตก ก็ทำให้ในหลายจังหวัดที่อยู่ติดกับทะเลดังกล่าวสามารถพบเห็นปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงได้เช่นเดียวกับที่ต่างๆทั่วโลก เมื่อศึกษากราฟการขึ้นลงของระดับน้ำรายชั่วโมงจากกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ โดยเลือกบริเวณอ่าวสัตหีบ จ.ชลบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และที่เกาะตะเภาน้อย จ.ภูเก็ต พบว่าที่ จ.ชลบุรีจะเป็นน้ำขึ้นน้ำลงแบบผสม (Mixed tide)ส่วน จ.ประจวบคีรีขันธ์เป็นแบบน้ำเดี่ยว (Diurnal tide)และ จ.ภูเก็ตเป็นแบบน้ำคู่ (Semidiurnal tide)

     จึงสรุปได้ว่าชายหาดหรือแม่น้ำแถวทะเล ประเทศไทยมีรูปแบบการเกิดน้ำขึ้นน้ำลง 3 ลักษณะ คือ ที่อ่าวไทยจะเป็น แบบน้ำผสม กับแบบน้ำเดี่ยว ส่วนภาคใต้ฝั่งทะเลอันดามันจะเป็นแบบน้ำคู่

แผนที่โลกแสดง semidiurnal tide (เส้นสีเขียว) แบบ mixed tide (เส้นสีแดง)
และแบบ diurnal tide (เส้นสีเหลือง) ที่เกิดขึ้นตามชายฝั่งของทวีปต่างๆ




บทสรุป
เราสามารถมองดวงจันทร์ กับมองทะเล หากมีการจัดทำสถิติจดบันทึก จะสามารถทำนายและสามารถคาดการณ์ระดับน้ำด้วยตัวเองในระดับใกล้เคียงความเป็นจริงได้ โดยอาศัยการสังเกตุ จัดทำข้อมูล และศึกษาวงโคจรตำแหน่งของโลก พระจันทร์ และพระอาทิตย์




วิธีการคาดการณ์ระดับน้ำด้วยตัวเอง

  • ให้ปักไม้หรือท่อเอสล่อน ที่ขีดสเกลวัดเป็นเมตรไว้ แล้วปักลงที่หาดหรือจุดที่ต้องการวัด
  • เปิดตารางน้ำรายชั่วโมงที่ใกล้เคียงจุดนั้น แล้วทำการปรับสเกลให้เท่ากับตารางน้ำจริง
  • ดูดวงจันทร์ประกอบเราก็จะรู้ว่าจุดสูงสุดของระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือลดลงเรื่อยๆ โดยดูจากข้างขึ้นข้างแรมดูตำแหน่ง ดิถีดวงจันทร์
  • หากระดาษมาพล๊อตเป็นกราฟ โดยมีแกน X เป็นเวลาแบ่งเป็นชั่วโมง และแกน Y เป็นระดับน้ำไม่จำเป็นต้องวัดละเอียดทุก ชั่วโมงก็ได้ เพราะเราสามารถลากเส้นต่อกันเป็นคลื่น Sine wave ได้ ก็จะทำนายระดับน้ำได้แล้วครับ ง่ายจริงๆ เป็นการทำนายอนาคตที่ แม่นกว่าหมอดูอีก เพราะวัดจริง ทำนายจริง
  • วัฐจักรน้ำสามารถคาดเดาได้ทุกๆ 12 ชั่วโมง 25 นาที จุดขึ้นสุด ลงสุด ดูจาก ดิถีดวงจันทร์ น้ำจะขึ้นเท่าใด จะลงเท่าได ดูจากสถิติของแต่ละวัน


เอกสารอ้างอิง
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่

บทความที่เกี่ยวข้อง : ดิถีดวงจันทร์ Moon phase ,   ความสัมพันธ์ ของเวลา กับ ลองจิจูด


วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

เกาะไผ่ พัทยา ประเทศไทย และมิตรภาพสุดขอบฟ้า

เกาะไผ่ พัทยา ประเทศไทย และมิตรภาพสุดขอบฟ้า

สัมผัสความรู้สึกของการให้ และแบ่งปัน ณ ที่แห่ง ... มิตรภาพสุดขอบฟ้า






แผนที่ทะเลจากไอแพ็ด D.I.Y GPS โจรสลัดทางทะเล ของกัปตัน แ จ็ ค ส แ ป ร์ โ ร ว์ ภาค 2 ตอนไอแพ็ดตลุยมหาสมุทรสุดขอบฟ้า








ที่พักแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จองและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว
พอรู้ว่าเป็นเพื่อนเล่นเรือ กลับคืนเงินและ ไม่ยอมเก็บเงิน ทั้งดูแลเป็นห่วงใยอย่างดี เสมือนญาติสนิท

ที่สุดของความเป็นที่สุด ขอบคุณ ... มิตรภาพสุดขอบฟ้า

ขอบคุณมากครับ น้า Jame Dond แห่ง ต้นหาดพัทยา

ขอบคุณอาหารเม็ดของหนูด้วยค่ะ

ณ ที่แห่ง มิตรภาพสุดขอบฟ้า <--คลิกเลย

http://youtu.be/rWfM-86fn1U