ทริปข้ามอ่าวไทย ประเทศไทย

ทริปข้ามอ่าวไทย



  ในปี ค.ศ.1966 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (The King of Thailand) ได้ทรงเรือใบประเภท โอ.เค. ชื่อเวคา (ทรงต่อเรือลำนี้ด้วยพระองค์เอง) พระองค์เดินทางพระองค์เดียวจากพระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน ข้ามอ่าวไทย มายัง อ.สัตหีบ ระยะทางประมาณ 60 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 110 กิโลเมตร

เพื่อให้เห็นพระอัจฉริยภาพ ของพระเจ้าอยู่หัว

ปี ค.ศ. 1960 (พ.ศ. 2503 ) สหรัฐได้ทดลองระบบนำทางด้วยดาวเทียม ชื่อ TRANSIT เป็นครั้งแรก ประกอบด้วยดาวเทียมจำนวน 5 ดวง ส่วนดาวเทียมที่ใช้ในระบบจีพีเอส (GPS Block-I) ส่งขึ้นทดลองเป็นครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1978 (พ.ศ.2521) เพื่อใช้ในกิจการทางทหาร

ปี ค.ศ. 1983 (พ.ศ.2526) หลังจากเกิดเหตุการณ์โคเรียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 007 ของเกาหลีใต้ บินพลัดหลงเข้าไปในน่านฟ้าของสหภาพโซเวียต และถูกยิงตก ผู้โดยสาร 269 คนเสียชีวิตทั้งหมด ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนได้ประกาศว่า เมื่อพัฒนาระบบจีพีเอสแล้วเสร็จ จะอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปใช้งานได้

วันที่ 19 เมษายน 2509 (ค.ศ.1966) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงเรือใบประเภทโอ.เค. ขนาด ๑๓ ฟุต ชื่อ เวคา (VEGA เป็นชื่อดาวที่สุกใสดวงหนึ่ง) โดยทรงเรือใบจากพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ข้ามอ่าวไทยไปยังอ่าวสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ซึ่งแน่นอนเดินทางข้ามอ่าวแบบไม่มี GPS ก่อนอเมริกาจะอนุญาติให้บุคคลทั่วไปใช้ 17 ปี
การเดินทางข้ามอ่าวไทยด้วยเรือเพียง 13 ฟุต จะทำให้สำเร็จ มีเพียงวิธีเดียว คือต้อง one day trip
คือต้องวิ่งโดยไม่หยุด และจะต้องทำให้สำเร็จภายในวัน ฉะนั้นต้องเผื่อเวลาที่ไม่ค่อยมีลม ช่วงเช้าๆ ช่วงเย็นๆ ลมตาย

โดยปรกติเรือใบจะวิ่งที่ความเร็วประมาณ 5 น๊อต/ชั่วโมง หรือประมาณ 9.25 กม/ชั่วโมง
ระยะทาง 110 กม ถ้าวิ่งได้ที่ความเร็ว 5 น๊อต/ชั่วโมง (9.25 กม/ชั่วโมง) จะใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง หรือถ้าวิ่งได้ 3 น๊อต/ชั่วโมง (5.55 กม/ชั่วโมง) จะใช้เวลา 20 ชั่วโมง

นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมพระองค์ จึงทรงออกเรือ เวลา 04.28 น. ของ 19 เมษายน 2509

ออกก่อนที่จะเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ก่อนลมจะตาย...

และกรณีเจอลมอ่อน และต้องการความเร็ว จะต้องใช้วิธีแล่นก้าว ซึ่งเป็นการแล่นเรือใบวิ่งแบบสลับฟันปลา (ซ้ายขวา ซ้ายขวาไปเรื่อยๆ) เพื่อให้ใบเรือปะทะรับแรงลมสูงสุด

มีเข็มทิศ กับนาฬิกา แล้วแล่นก้าว ข้ามอ่าวไทย ...

ถึงสัตหีบ เวลาสามทุ่มกว่า ทรงฉลองพระองค์ชุดสนามทหารนาวิกโยธิน เสด็จนำธง "ราชนาวิกโยธิน" มาปักไว้เหนือก้อนหินใหญ่บนชายหาดกลางอ่าวเตยงาม

ลักษณะธงราชนาวิกโยธิน จะสีแดงเข้ม รูปครุฑเกาะลูกโลก บรรจุแผนที่ประเทศไทย และเส้นรุ้งเส้นแวงทับลงบนสมอเรือและสายสมอ

พวกเราเลยมาตามรอยพระเจ้าอยู่หัว ในเส้นทางเดินเรือที่พระองค์ท่านทรงได้เดินทาง เพื่อเทอดพระเกียรติ และรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่เป็นแบบอย่างของนักเดินเรือ การทำเรือเอง แล่นเรือ เดินทางด้วยเรือ ด้วยหัวใจอันเข้มแข็ง แน่วแน่ ที่ไม่หวั่นภัยอันตรายใดๆ โดยมีเข็มทิศเป็นตัวกำหนดเป้าหมายของการเดินทาง

การกำหนดเข็มทิศทำให้ เรือเดินทางถึงจุดหมาย การกำหนดเข็มทิศชีวิตก็เช่นกัน ทำให้ชีวิตเดินทางถึงจุดมุงหมายของชีวิต กับ ความฝันอันสูงสุด

ทริปนี้ไปกัน 3 ลำ มีน้าเจมส์ ดอน, น้ากำนัน ,น้าพงศธร และผมน้าตุ้ม ทริปนี้ผมไม่ได้เอาเรือไป แต่เป็นผู้ช่วยกัปตัน ช่วยขับเรือ ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ และเก็บบรรยากาศในการเดินเรือ

น้าพงศธรเตรียมเรือ ก่อนออกเดินทาง

ลุยแล้วครับพี่น้อง

บินๆไป

น้ากำนัน กับเรือ Trophy

น้าเจมส์ ดอน กับลูกๆ

รู้สึกว่าจะน้ำจะเรียบเกินไป

โอ้ว เรียบเกินๆ ไม่อยากจะเชื่อเลย

พวงมาลัยมาสักการะ

ณ ที่นี้
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
จอมทัพไทย
ได้ทรงเรือใบขนาด 13 ฟุตด้วยพระองค์เองพระองค์เดียว
จากหัวหินมาถึงสัตหีบ เมื่อวันที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2509
เริ่มเวลา 04.28 ถึงเวลา 21.28
ทั้งนี้เป็นพระปรีชาสามารถอย่างยอดเยี่ยม
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
กองทัพเรือได้ขอพระราชทานพระมหากรุณา
ให้ทรงลงพระปรมาภิไธยไว้เพื่อเป็นสิริมงคล
และเป็นเกียรติประวัติแก่กองทัพเรือ สืบไป